คุณรู้หรือไม่ว่า Facebook ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับแชร์รูปภาพวันหยุดหรือติดตามข่าวสารเพื่อนๆ อีกต่อไป แต่มันคือ “ตลาดนัดออนไลน์” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ซึ่งลูกค้าในอนาคตของคุณใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงต่อวัน การเรียนรู้วิธี ยิงแอด Facebook จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกเสริม แต่เป็น “ทักษะจำเป็น” สำหรับธุรกิจที่ต้องการเติบโตในยุคดิจิทัลปี 2025
การ “ยิงแอด” ก็คือการจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาบน Facebook (และ Instagram) เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการของคุณไปยังกลุ่มคนที่คุณ “เลือก” แล้วว่าใช่ แต่การยิงแอดไม่ใช่แค่การกดปุ่ม “โปรโมทโพสต์” แล้วหวังผล มันคือศาสตร์และศิลป์ที่ต้องอาศัยความเข้าใจและกลยุทธ์
เราเปลี่ยนการ “ยิงแอด” ให้เป็นการ “สร้างลูกค้า”
ที่ MSKMedia เราไม่ได้แค่มองว่าการยิงแอดคือการทำให้คนเห็นเยอะๆ แต่เรามองว่ามันคือกระบวนการ “สร้างลูกค้า” ตั้งแต่ทำให้คนที่ไม่รู้จัก กลายเป็นคนที่รู้จัก, สนใจ, ตัดสินใจซื้อ, และกลับมาซื้อซ้ำ จากประสบการณ์ในการบริหารแคมเปญนับพัน เราพบว่าหัวใจสำคัญอยู่ที่การทำความเข้าใจลูกค้าและการวัดผลอย่างเป็นระบบ บทความนี้จึงกลั่นกรองจากสิ่งที่เราทำจริงทุกวัน เพื่อเป็นแนวทางให้คุณ
ทำไมต้อง “ยิงแอด Facebook” แทนที่จะโพสต์เฉยๆ?
เพราะ Organic Reach (การเข้าถึงแบบไม่เสียเงิน) แทบจะเป็นศูนย์แล้ว! Facebook ต้องการให้ธุรกิจจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การยิงแอดจึงเป็นทางเดียวที่จะการันตีว่าโพสต์ขายของหรือโปรโมชันของคุณจะไปถึงสายตาคนที่ “มีแนวโน้ม” จะเป็นลูกค้าจริงๆ
หัวใจสำคัญ: เลือก “วัตถุประสงค์” (Objective) ให้ถูกตั้งแต่แรก
ก่อนจะเริ่มยิงแอด คุณต้องตอบให้ได้ก่อนว่า “อยากได้อะไร?” Facebook Ads Manager (เครื่องมือยิงแอดตัวจริง ไม่ใช่ปุ่ม Boost Post) มีวัตถุประสงค์ให้เลือกมากมาย การเลือกถูกตั้งแต่ต้นจะทำให้ AI ของ Facebook ช่วยหาคนที่ใช่ให้คุณได้ดีขึ้น
- อยากให้คนรู้จักแบรนด์: เลือก Awareness หรือ Reach
- อยากให้คนคลิกเข้าเว็บ/Shopee/Lazada: เลือก Traffic
- อยากให้คนทักแชท Inbox: เลือก Engagement (แล้วเลือก Messages)
- อยากได้คนกรอกฟอร์ม เก็บ Lead: เลือก Lead Generation
- อยากได้ยอดขายบนเว็บไซต์: เลือก Sales (ต้องติดตั้ง Pixel ก่อน)
รู้จัก “กลุ่มเป้าหมาย” (Audience) 3 ประเภทหลักที่คุณต้องใช้
พลังของ Facebook Ads อยู่ที่การเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดสุดๆ
1. Core Audiences (กลุ่มเป้าหมายหลัก)
คือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยตัวเอง โดยใช้ข้อมูล:
- Demographics: อายุ, เพศ, ที่อยู่, ภาษา
- Interests: ความสนใจ (เช่น สนใจ “เครื่องสำอาง”, “ท่องเที่ยวญี่ปุ่น”) – นี่คือส่วนที่คนนิยมใช้มากที่สุด
- Behaviors: พฤติกรรม (เช่น “ใช้ iPhone”, “เดินทางบ่อย”, “ชอบซื้อของออนไลน์”)
2. Custom Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง)
คือการสร้างกลุ่มเป้าหมายจาก “ข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้ว” ทรงพลังมาก!
- Website Visitors: คนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณ (ต้องติด Pixel)
- Customer List: รายชื่อลูกค้า (อัปโหลดเบอร์โทร/อีเมล)
- Engagement: คนที่เคยมีส่วนร่วมกับเพจ/IG (ไลค์, คอมเมนต์, ดูวิดีโอ, ทักแชท)
3. Lookalike Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึง)
คือการให้ AI ของ Facebook หากลุ่มคนใหม่ๆ ที่มีลักษณะ “คล้าย” กับ Custom Audience ที่ดีที่สุดของคุณ (เช่น หาคนที่คล้ายกับคนที่เคยซื้อของบนเว็บของคุณ) เป็นเครื่องมือขยายฐานลูกค้าที่ยอดเยี่ยม
ตาราง: เลือกใช้ Audience แบบไหนดี?
| ประเภท Audience | เหมาะสำหรับเป้าหมายแบบไหน? | ตัวอย่างการใช้งาน |
| Core Audiences | หา ลูกค้าใหม่ ที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ | ยิงแอดหา “ผู้หญิง อายุ 25-40 ในกรุงเทพฯ สนใจ ‘โยคะ'” เพื่อขายเสื่อโยคะ |
| Custom Audiences | ยิงแอดซ้ำ (Remarketing) หาคนที่เคยสนใจ หรือ รักษาลูกค้าเก่า | ยิงแอดโปรโมชันหา “คนที่เคยเข้าเว็บแต่ยังไม่ซื้อ” หรือ “คนที่เคยซื้อของแล้วใน 6 เดือน” |
| Lookalike Audiences | ขยายฐานลูกค้าใหม่ ที่มีแนวโน้มจะซื้อสูง | สร้าง Lookalike จาก “คนที่เคยซื้อของบนเว็บ” เพื่อหาลูกค้าใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกัน |
องค์ประกอบของโฆษณาที่ดี (Ad Creative & Copy)
- รูปภาพ/วิดีโอ: ต้อง หยุดนิ้ว ให้ได้! ใช้ภาพที่คมชัด สื่อถึงสินค้า/บริการชัดเจน วิดีโอสั้นๆ (15-30 วิ) มักได้ผลดี
- ข้อความ (Copy):
- พาดหัว (Headline): สั้น กระชับ บอกประโยชน์หลัก
- แคปชัน (Primary Text): อธิบายเพิ่มเติม ใส่จุดเด่น โปรโมชัน ใช้ Emoji ช่วยให้อ่านง่าย
- Call-to-Action (CTA): ปุ่มที่ชัดเจน บอกว่าอยากให้ทำอะไร (เช่น “ซื้อเลย”, “ส่งข้อความ”, “ดูเพิ่มเติม”)
เริ่มต้นยิงแอด Facebook ด้วยงบเท่าไหร่ดี?
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองและเก็บข้อมูล:
- งบแนะนำ: วันละ 100 – 300 บาท ต่อแคมเปญ/Ad Set
- ระยะเวลา: ปล่อยให้แอดวิ่งอย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ระบบเรียนรู้ (Learning Phase) และคุณมีข้อมูลพอที่จะวิเคราะห์
ข้อควรจำ: การยิงแอดคือการ “ทดลอง” ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว คุณต้องคอยดูผลและปรับปรุงอยู่เสมอ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ไม่จำเป็นครับ คุณสามารถยิงแอดทั้งสองแพลตฟอร์มได้พร้อมกันผ่าน Ads Manager ที่เดียว และเลือก Placement (ตำแหน่งโฆษณา) ที่ต้องการได้เลย
อาจเป็นเพราะคุณเลือกวัตถุประสงค์ (Objective) เป็น Engagement หรือกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกอาจสนใจแค่คอนเทนต์แต่ไม่ใช่กลุ่มที่พร้อมซื้อ หรือข้อเสนอของคุณยังไม่น่าดึงดูดพอ
Pixel คือโค้ดที่ติดบนเว็บไซต์ ถ้าคุณต้องการวัดผลยอดขายบนเว็บ หรือต้องการยิงแอดซ้ำหาคนที่เคยเข้าเว็บ (Remarketing) การติด Pixel คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนใหญ่เกิดจากการละเมิดนโยบายซ้ำๆ ให้เข้าไปที่ Account Quality ใน Business Manager เพื่อดูสาเหตุและยื่นอุทธรณ์ (Request Review) ตามขั้นตอน
ถ้าคุณมีเวลาศึกษาและพร้อมลองผิดลองถูก การทำเองก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วและต้องการประหยัดเวลา การจ้างเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์ (เช่น MSKMedia) จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าและลดความเสี่ยงในการใช้งบประมาณผิดพลาด
References
เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยิงแอด Facebook นี่คือแหล่งข้อมูลชั้นนำที่คุณสามารถอ่านต่อได้:
- Meta Blueprint – Get Started with Ads: คอร์สเรียนฟรีและคู่มือเริ่มต้นการทำโฆษณาจาก Meta โดยตรง https://www.facebook.com/business/learn/categories/ads
- Neil Patel Blog – Facebook Ads: บทความและเทคนิคเชิงลึกเกี่ยวกับการทำ Facebook Ads จากนักการตลาดดิจิทัลชื่อดัง (ภาษาอังกฤษ) https://neilpatel.com/blog/facebook-ads/
- Social Media Examiner – Facebook Ads: แหล่งรวมบทความ, เคสスタディ, และข่าวสารอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับ Facebook Ads (ภาษาอังกฤษ) https://www.socialmediaexaminer.com/category/facebook/facebook-ads/