“ต้องเตรียมงบ ค่ายิง Ads Facebook เท่าไหร่?” นี่คือคำถามยอดฮิตอันดับต้นๆ สำหรับเจ้าของธุรกิจทั้งมือใหม่และมือเก๋าที่ต้องการใช้ Facebook เป็นเครื่องมือสร้างยอดขาย หลายคนกังวลว่าต้องมีเงินถุงเงินถังถึงจะสู้คู่แข่งได้ หรือบางคนก็เคยลองผิดลองถูกแล้วพบว่าค่าแอดแพงขึ้นเรื่อยๆ จนน่าตกใจ
ความจริงก็คือ Facebook Ads ไม่ได้มี “ราคามาตรฐาน” ที่ตายตัว มันทำงานเหมือนตลาดประมูลที่ราคาผันผวนตลอดเวลา แต่ข่าวดีที่สุดคือ คุณคือผู้ควบคุมงบประมาณ 100% ไม่ว่าคุณจะมีงบวันละร้อย หรือวันละหมื่น ก็สามารถเริ่มต้นได้ บทความนี้จะไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการยิงแอด และแนะนำวิธีทำให้ทุกบาทของคุณคุ้มค่าที่สุด
ประสบการณ์จริง: งบเยอะ ไม่ได้แปลว่าผลลัพธ์ดีเสมอไป
ที่ MSKMedia เราบริหารจัดการงบประมาณโฆษณา Facebook ให้ลูกค้ามานับไม่ถ้วน เราได้เห็นทั้งแคมเปญที่ใช้งบน้อยแต่สร้างยอดขายมหาศาล และแคมเปญที่ทุ่มงบหลักแสนแต่กลับขาดทุน เราจึงรู้ดีว่า “จำนวนเงิน” ไม่ใช่ปัจจัยเดียวสู่ความสำเร็จ แต่คือ “กลยุทธ์” ในการใช้งบนั้นต่างหาก การเข้าใจโครงสร้างราคาและปัจจัยที่ส่งผลกระทบ คือก้าวแรกที่จะเปลี่ยนจากการ “เผาเงิน” เป็นการ “ลงทุน” ที่ชาญฉลาด
ไขข้อสงสัย: Facebook คิด “ค่ายิงแอด” จากอะไร?
เวลาคุณยิงแอด Facebook คุณไม่ได้จ่ายเงินเพื่อ “ซื้อพื้นที่โฆษณา” แบบตายตัว แต่คุณกำลังเข้าร่วม “การประมูลโฆษณา” (Ad Auction) ซึ่งเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีทุกครั้งที่มีโอกาสแสดงโฆษณาบนหน้าฟีดของผู้ใช้
ระบบประมูลโฆษณา (Ad Auction) ทำงานอย่างไร
ง่ายๆ คือ เมื่อมีพื้นที่ว่าง ระบบจะดูว่ามีผู้ลงโฆษณาคนไหนบ้างที่ต้องการแสดงโฆษณาต่อกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ แล้วระบบจะคัดเลือกผู้ชนะโดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ไม่ใช่แค่ใครให้ราคาสูงสุด:
- ราคาประมูล (Bid): จำนวนเงินสูงสุดที่คุณยินดีจ่าย
- คุณภาพและความเกี่ยวข้องของโฆษณา (Ad Quality & Relevance): โฆษณาของคุณดีแค่ไหน และตรงกับความสนใจของผู้ใช้หรือไม่
- อัตราการกระทำที่คาดหวัง (Estimated Action Rates): ระบบคาดว่าคนจะคลิก, คอมเมนต์, หรือทำตามเป้าหมายที่คุณตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน
เคล็ดลับ: โฆษณาคุณภาพดีและเกี่ยวข้องสูง มีโอกาสชนะประมูลและจ่ายค่าแอดถูกกว่าโฆษณาที่ไม่ดี แม้จะตั้งราคาประมูลไว้ต่ำกว่าก็ตาม!
รู้จักศัพท์วัดผล: ค่าแอดของคุณวัดจากอะไร?
- CPM (Cost Per 1,000 Impressions): ต้นทุนต่อการแสดงผลครบ 1,000 ครั้ง เหมาะสำหรับแคมเปญสร้างการรับรู้ (Awareness)
- CPC (Cost Per Click): ต้นทุนต่อการคลิก เหมาะสำหรับแคมเปญดึงคนเข้าเว็บไซต์ (Traffic)
- Cost per Result (ต้นทุนต่อผลลัพธ์): ต้นทุนเฉลี่ยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่คุณเลือก (เช่น Cost per Message, Cost per Purchase) นี่คือตัวชี้วัดความคุ้มค่าที่สำคัญที่สุด
ค่ายิงแอดเฉลี่ยในไทย (อัปเดต 2025)
ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียง “ค่าประมาณ” เพื่อให้เห็นภาพรวม ราคาจริงของคุณอาจแตกต่างกันมาก:
- CPC เฉลี่ย: ประมาณ 5 – 20 บาท
- CPM เฉลี่ย: ประมาณ 80 – 150 บาท
- Cost per Message เฉลี่ย: ประมาณ 30 – 150 บาท (ผันผวนสูงมาก)
ตาราง: 5 ปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าแอดถูกหรือแพง
ทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้คือหัวใจของการควบคุมงบประมาณ
| ปัจจัย (Factor) | ทำให้ค่าแอด “ถูกลง” ถ้า… | ทำให้ค่าแอด “แพงขึ้น” ถ้า… |
| 1. คุณภาพโฆษณา (Ad Quality) | รูปภาพ/วิดีโอสวยงาม, ข้อความน่าสนใจ, คนมีส่วนร่วมเยอะ | รูปภาพแตก, ข้อความน่าเบื่อ, ไม่มีคนสนใจ |
| 2. กลุ่มเป้าหมาย (Audience) | เลือกกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง (Niche) และตรงกับสินค้า | เลือกกลุ่มเป้าหมายกว้างเกินไป หรือมีการแข่งขันสูง |
| 3. วัตถุประสงค์ (Objective) | เลือก Awareness หรือ Engagement | เลือก Conversions หรือ Lead Generation (แต่คุ้มค่ากว่า) |
| 4. ตำแหน่งโฆษณา (Placement) | เลือกตำแหน่งที่การแข่งขันน้อยลง (เช่น Audience Network) | เลือกเฉพาะตำแหน่งยอดฮิต (เช่น Instagram Feed) ในช่วงพีค |
| 5. ช่วงเวลา (Seasonality) | ยิงแอดในช่วง Low Season หรือวันที่คนไม่นิยมซื้อของออนไลน์ | ยิงแอดในช่วงเทศกาลใหญ่ๆ (เช่น 11.11, สิ้นปี) ที่แข่งกันดุเดือด |
มือใหม่ควรเริ่มด้วยงบประมาณเท่าไหร่?
คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ เริ่มต้นด้วยงบประมาณที่คุณ “ไม่เดือดร้อนถ้าจะเสียไปเพื่อการเรียนรู้”
- งบแนะนำ: วันละ 100 – 300 บาท (เดือนละ 3,000 – 9,000 บาท)
- ระยะเวลา: ลองยิงต่อเนื่องอย่างน้อย 7-14 วัน เพื่อให้ระบบ AI เรียนรู้และคุณมีข้อมูลมากพอที่จะวิเคราะห์
อย่าคาดหวังว่าจะได้กำไรทันทีในช่วงแรก ให้มองว่านี่คือการลงทุนเพื่อ “ซื้อข้อมูล” ว่าลูกค้ากลุ่มไหนตอบสนองต่อโฆษณาแบบใด
“งบโฆษณา” vs “ค่าบริการเอเจนซี่”: คนละส่วนกันนะ!
นี่คือเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน:
- งบโฆษณา (Ad Spend): คือเงินที่คุณต้องจ่าย “โดยตรง” ให้กับ Facebook เพื่อให้โฆษณาของคุณแสดงผล คุณตั้งงบนี้เองใน Ads Manager
- ค่าบริการเอเจนซี่ (Management Fee / Service Fee): คือค่าจ้างที่คุณจ่ายให้กับ “เอเจนซี่” หรือ “ฟรีแลนซ์” (เช่น MSKMedia) เพื่อเป็นค่าบริหารจัดการ, วางแผนกลยุทธ์, สร้างสรรค์โฆษณา, และดูแลแคมเปญให้คุณ
วิธีควบคุมค่ายิง Ads Facebook ให้อยู่ในงบ
- เลือก Objective ให้ถูก: อย่าเลือก Conversion ถ้าคุณแค่ต้องการให้คนเห็นเยอะๆ
- พัฒนา Ad Creative: ลงทุนกับรูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูง คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด
- เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย: ยิ่งแคบและตรงกลุ่ม ยิ่งมีโอกาสคุ้มค่า
- ใช้ Audience Exclusions: อย่าลืม “ยกเว้น” กลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกค้า (เช่น คนที่ซื้อไปแล้ว) ออกจากการมองเห็นโฆษณาซ้ำๆ
- ตั้ง Bid Cap หรือ Cost Cap (ขั้นสูง): หากคุณเข้าใจระบบดีแล้ว สามารถกำหนดเพดานราคาประมูลหรือต้นทุนต่อผลลัพธ์สูงสุดได้
ทำไมบางทีค่าแอดถึงแพงขึ้นเรื่อยๆ (Ad Fatigue)
สาเหตุหลักคือ Ad Fatigue หรือ “โฆษณาซ้ำซาก” เกิดขึ้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายเดิมเห็นโฆษณาของคุณบ่อยเกินไปจนเริ่มเบื่อและไม่ตอบสนอง ทำให้ CTR ตก และค่าแอดแพงขึ้น วิธีแก้คือการ “เปลี่ยน Ad Creative” ใหม่ (Refresh) ทุกๆ 1-2 สัปดาห์
ลงทุนกับค่าแอด หรือ ลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญ?
การยิงแอดเองช่วยประหยัดค่าบริการ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเวลาในการเรียนรู้และ “ค่าเล่าเรียน” จากการลองผิดลองถูก ซึ่งอาจจะแพงกว่าการจ้างผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่แรกก็ได้ การมีเอเจนซี่เข้ามาดูแล ไม่เพียงช่วยประหยัดเวลา แต่ยังนำประสบการณ์และความรู้มาช่วยให้งบประมาณของคุณถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Facebook กำหนดขั้นต่ำไว้ค่อนข้างน้อย (ประมาณวันละ 30-40 บาท) แต่ในทางปฏิบัติ การใช้งบต่ำเกินไปอาจทำให้ระบบ AI เรียนรู้ได้ช้าและไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
คุณสามารถผูกบัตรเครดิต/เดบิต หรือใช้ PayPal ได้ ระบบจะตัดเงินตามรอบบิลที่คุณตั้งไว้ หรือเมื่อค่าใช้จ่ายถึงเกณฑ์ที่กำหนด
ไม่การันตีครับ Facebook การันตีแค่ว่าจะพยายามนำส่งโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกให้ดีที่สุด ส่วนผลลัพธ์ปลายทาง (เช่น ยอดขาย) ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมาก
Facebook อาจใช้จ่ายเกินงบรายวันได้สูงสุด 25% ในวันที่ระบบเห็นว่ามีโอกาสได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นพิเศษ แต่จะควบคุมให้ค่าใช้จ่ายรายสัปดาห์โดยรวมไม่เกินงบประมาณที่คุณตั้งไว้
มีหลายรูปแบบ เช่น คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากงบโฆษณา (เช่น 15-20%), คิดเป็นค่าบริการรายเดือนคงที่ (Flat Fee), หรือคิดตามผลงาน (Performance-based)
References
เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและการตั้งงบประมาณ Facebook Ads นี่คือแหล่งข้อมูลชั้นนำที่คุณสามารถอ่านต่อได้:
- Meta Business Help Centre – Billing & Payments: ศูนย์ช่วยเหลืออย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องการเรียกเก็บเงินและงบประมาณ https://www.facebook.com/business/help/category/billing-payments
- Hootsuite Blog – How Much Do Facebook Ads Cost? บทวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุนโฆษณา Facebook และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (ภาษาอังกฤษ) https://blog.hootsuite.com/how-much-do-facebook-ads-cost/
- WordStream – Facebook Ad Costs: แหล่งข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายโฆษณา Facebook แยกตามอุตสาหกรรม (ภาษาอังกฤษ) https://www.wordstream.com/blog/ws/2021/07/12/facebook-ad-costs