Boost Post คืออะไร
Boost Post คือการโปรโมตโพสต์ที่มีอยู่บนเพจ Facebook ให้เข้าถึงผู้ชมได้กว้างและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มการมองเห็น คอมเมนต์ แชร์ และไลก์ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่ต้องตั้งค่าโฆษณาแบบซับซ้อน
จุดเด่นของ Boost Post
- ทำง่าย เพียงคลิกปุ่ม “Boost Post” ใต้โพสต์
- เหมาะกับคอนเทนต์ที่ต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)
- เลือกกลุ่มเป้าหมายจากความสนใจ พื้นที่ เพศ และอายุได้
- ใช้งบประมาณยืดหยุ่น เริ่มได้ตั้งแต่หลักร้อย
Facebook Ads คืออะไร
Facebook Ads คือการสร้างแคมเปญโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manager ที่ให้ความยืดหยุ่นและควบคุมรายละเอียดได้มากกว่า Boost Post เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น การขายสินค้า เก็บ Leads หรือการเพิ่มจำนวนลูกค้าผ่าน Conversion
จุดเด่นของ Facebook Ads
- ตั้งค่าโฆษณาได้ละเอียด เช่น Objective, Placement, และงบประมาณ
- สร้างรูปแบบโฆษณาหลากหลาย เช่น Carousel, Video, Collection
- ติดตั้งและวัด Conversion ได้ละเอียด
- ทำ A/B Testing เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโฆษณาได้ง่าย
- ใช้ Custom Audience และ Lookalike Audience ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ตารางเปรียบเทียบ Boost Post กับ Facebook Ads
คุณสมบัติ | Boost Post | Facebook Ads |
---|---|---|
ความง่ายในการใช้งาน | ทำง่ายเพียงคลิกปุ่มเดียว | ต้องตั้งค่าใน Ads Manager |
เป้าหมายหลัก | การมองเห็น ไลก์ แชร์ คอมเมนต์ | Conversion, การขาย, เก็บ Leads, Remarketing |
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย | พื้นฐาน เช่น อายุ เพศ ความสนใจ | ละเอียด เช่น พฤติกรรม, Custom Audience |
การวัดผล | จำกัด เช่น Reach, Engagement | ครอบคลุม เช่น CPC, CTR, ROAS, Conversion Rate |
ความเหมาะสม | แบรนด์ใหม่, โปรโมตโพสต์สั้น ๆ | ธุรกิจที่ต้องการยอดขายและ ROI ที่ชัดเจน |
bullet list: เลือกใช้วิธีไหนดีสำหรับธุรกิจ
- Boost Post เหมาะสำหรับ
- โปรโมตโพสต์ใหม่ ๆ ให้มีคนเห็นเยอะในเวลาอันสั้น
- เพิ่ม Engagement เช่น คอมเมนต์ แชร์ และไลก์
- ผู้เริ่มต้นที่ยังไม่คุ้นเคยกับ Ads Manager
- Facebook Ads เหมาะสำหรับ
- ธุรกิจที่ต้องการวัดผล ROI อย่างละเอียด
- เก็บ Leads และทำ Conversion อย่างจริงจัง
- แคมเปญระยะยาวที่ต้องปรับปรุงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ผสมผสาน Boost Post และ Facebook Ads
บางธุรกิจเลือกใช้ทั้งสองวิธีร่วมกัน เช่น เริ่มจาก Boost Post เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และเก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำ Facebook Ads เพื่อเจาะลูกค้าที่มีแนวโน้มซื้อสูงขึ้น (Custom Audience และ Lookalike Audience) วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงบโฆษณาในระยะยาว
ตัวอย่างการใช้งานจริง
- ร้านแฟชั่นออนไลน์: Boost Post โพสต์แฟชั่นใหม่เพื่อสร้างกระแส แล้วใช้ Facebook Ads สำหรับแคมเปญ Conversion เพื่อปิดการขาย
- คลินิกความงาม: Boost Post คอนเทนต์รีวิวลูกค้า จากนั้นใช้ Facebook Ads เก็บ Leads เพื่อจองคิว
- ธุรกิจการศึกษา: Boost Post วิดีโอสั้นเพื่อสร้างการรับรู้ และทำ Facebook Ads เพื่อเก็บข้อมูลผู้สนใจคอร์ส
เคล็ดลับเลือกให้เหมาะกับงบประมาณ
- หากมีงบจำกัดและต้องการเห็นผลเร็ว เช่น เพิ่มยอดไลก์หรือแชร์ → Boost Post ตอบโจทย์
- หากตั้งเป้าหมายเพื่อยอดขาย การลงทะเบียน หรือการสร้างรายได้ → ลงทุนกับ Facebook Ads เพื่อควบคุมได้ละเอียดและแม่นยำกว่า
สรุป
Boost Post และ Facebook Ads ต่างก็มีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์การตลาดออนไลน์
- Boost Post: เหมาะสำหรับการสร้างการรับรู้ การเพิ่มไลก์ และ Engagement อย่างรวดเร็ว
- Facebook Ads: เหมาะสำหรับการทำแคมเปญที่ต้องการผลลัพธ์ที่วัด ROI ได้ชัด เช่น ยอดขายหรือการเก็บลูกค้าใหม่
ธุรกิจควรเลือกหรือผสมผสานตามเป้าหมายและงบประมาณ เพื่อให้การใช้เงินโฆษณาได้ผลลัพธ์สูงสุด
FAQs
Boost Post เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักร้อยบาท ส่วน Facebook Ads เหมาะกับงบที่สูงขึ้นเพื่อสร้าง Conversion ระยะยาว
เริ่มจาก Boost Post เพื่อทดลองตลาด และเมื่อคุ้นเคยค่อยทำ Facebook Ads
ทำได้จำกัด ในขณะที่ Facebook Ads รองรับ Remarketing ได้เต็มรูปแบบ
CPC, CTR, Conversion Rate, ROAS และข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า
ได้ และการใช้ร่วมกันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดในระยะยาว
References
HubSpot – Facebook Ads vs Boosted Posts