Facebook Ads มีกี่ประเภท? คู่มือเลือกโฆษณาให้เหมาะกับธุรกิจ

สารบัญ
facebook ads มีกี่ประเภท

Facebook Ads คืออะไร

Facebook Ads คือระบบโฆษณาออนไลน์ของ Facebook ที่ช่วยให้ธุรกิจโปรโมตสินค้า บริการ หรือแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดอายุ เพศ พื้นที่ ความสนใจ พฤติกรรมการใช้งาน และตั้งงบประมาณได้ตามต้องการ

ความพิเศษคือ Facebook Ads ครอบคลุมทั้ง Facebook, Instagram, Messenger และ Audience Network ทำให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้หลายล้านคนได้ง่ายในแคมเปญเดียว


Facebook Ads มีกี่ประเภท

โดยรวม Facebook Ads มีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละประเภทตอบโจทย์เป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนี้

ประเภทโฆษณารายละเอียดการใช้งาน
Image Adsโฆษณารูปภาพเดี่ยว เหมาะกับการสร้างการจดจำแบรนด์และโปรโมตสินค้าอย่างชัดเจน
Video Adsวิดีโอเล่าเรื่องราวหรือสาธิตการใช้สินค้า เหมาะสำหรับดึงดูดความสนใจและเพิ่มการมีส่วนร่วม
Carousel Adsโฆษณาที่มีภาพหรือวิดีโอเลื่อนได้หลายชิ้น เหมาะกับการโปรโมตสินค้าหลายแบบในชุดเดียว
Collection Adsรวมภาพหลักกับสินค้าหลายชิ้นในโฆษณาเดียว ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อได้ทันที
Lead Adsแบบฟอร์มเก็บข้อมูลลูกค้า เช่น อีเมล เบอร์โทรศัพท์ โดยไม่ต้องออกจาก Facebook
Messenger Adsโฆษณาที่กระตุ้นให้ผู้ใช้แชทสอบถามผ่าน Messenger
Stories Adsโฆษณาในรูปแบบวิดีโอแนวตั้ง เต็มหน้าจอ เหมาะกับการสร้างการรับรู้รวดเร็ว
Reels Adsวิดีโอสั้นใน Instagram Reels หรือ Facebook Reels เน้นความบันเทิงและการมีส่วนร่วม
Instant Experienceหน้าโฆษณาที่เปิดใน Facebook โดยตรง โหลดเร็วและโต้ตอบได้ทันที
Dynamic Adsแสดงสินค้าอัตโนมัติตามพฤติกรรมการท่องเว็บของผู้ใช้ เหมาะสำหรับ e-commerce

bullet list: การเลือกประเภทโฆษณาให้เหมาะกับธุรกิจ

  • ร้านค้าออนไลน์ → เหมาะกับ Collection Ads, Dynamic Ads และ Carousel Ads เพื่อโชว์สินค้าได้หลายรายการในครั้งเดียว
  • ธุรกิจบริการ → เลือก Lead Ads เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า หรือ Messenger Ads เพื่อพูดคุยกับลูกค้าโดยตรง
  • แบรนด์ใหม่หรือคอนเทนต์บันเทิง → ใช้ Video Ads, Stories Ads และ Reels Ads เพื่อสร้างการจดจำอย่างรวดเร็ว
  • ธุรกิจต้องการขายทันที → เลือก Image Ads หรือ Instant Experience เพื่อเน้นการคลิกและ Conversion

ขั้นตอนการสร้าง Facebook Ads

  1. เข้าสู่ Ads Manager ที่ Facebook Ads Manager
  2. เลือกวัตถุประสงค์ (Objective) เช่น Awareness, Consideration, หรือ Conversion
  3. ตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย (Audience) โดยระบุอายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรม
  4. เลือกประเภทโฆษณา ให้เหมาะกับสินค้าและเป้าหมาย
  5. กำหนดงบประมาณและระยะเวลา แคมเปญ
  6. ออกแบบเนื้อหาโฆษณา ทั้งภาพ วิดีโอ และข้อความที่ดึงดูด พร้อม Call to Action
  7. ตรวจสอบและเผยแพร่ แคมเปญ

เคล็ดลับเพิ่มประสิทธิภาพ Facebook Ads

  • ใช้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูงเพื่อดึงดูดสายตา
  • เขียนข้อความโฆษณาให้กระชับและตรงจุดขาย
  • ทำ A/B Testing เพื่อทดสอบหลายเวอร์ชัน
  • ติดตั้ง Facebook Pixel เพื่อติดตาม Conversion และทำ Remarketing
  • ปรับงบตามประสิทธิภาพของแต่ละโฆษณา

ตัวอย่างการใช้งานจริง

  • ร้านแฟชั่น: ใช้ Carousel Ads แสดงคอลเลกชันใหม่ พร้อมลิงก์สั่งซื้อ
  • คลินิกเสริมความงาม: ใช้ Lead Ads เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและนัดหมาย
  • ธุรกิจการศึกษา: ใช้ Video Ads โปรโมตคอร์สเรียนพร้อมปุ่มสมัคร
  • แบรนด์สินค้าใหม่: ใช้ Reels Ads เพื่อเพิ่มการมองเห็นในกลุ่มวัยรุ่น

สรุป

Facebook Ads มีหลายประเภทที่ตอบโจทย์เป้าหมายแตกต่างกัน ตั้งแต่การสร้างการรับรู้แบรนด์ (Awareness) การเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ไปจนถึงการเพิ่มยอดขาย (Conversion) การเลือกประเภทที่เหมาะกับสินค้า บริการ และงบประมาณ คือกุญแจสำคัญในการทำโฆษณาออนไลน์ให้คุ้มค่าที่สุด


FAQs

Facebook Ads มีกี่ประเภทหลัก?

มีหลายประเภท เช่น Image, Video, Carousel, Collection, Lead, Messenger, Stories, Reels, Instant Experience และ Dynamic Ads

เริ่มต้นใช้งบเท่าไหร่?

เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักร้อยบาทต่อวันตามกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมาย

จำเป็นต้องใช้ทุกประเภทหรือไม่?

ไม่จำเป็น ควรเลือกตามเป้าหมายของธุรกิจและคอนเทนต์ที่เหมาะสม

Facebook Ads แบบไหนเพิ่มยอดขายดีที่สุด?

สำหรับ e-commerce แนะนำ Dynamic Ads และ Collection Ads เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อทันที

ควรปรับโฆษณาบ่อยแค่ไหน?

ควรตรวจสอบผลอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งและปรับตามประสิทธิภาพของแคมเปญ


References