“อยากขายของออนไลน์ แต่ไม่อยากเสียเงินจ้างทำเว็บ” “อยากลองยิงแอด แต่ไม่มีหน้า Landing Page จะทำไงดี?”
นี่คือเสียงบ่นในใจของผู้เริ่มต้นทำธุรกิจหลายคน การมีเว็บไซต์หรือ Landing Page ที่สวยงามดูเป็นมืออาชีพมักจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่าย ทั้งค่าโดเมน, ค่าโฮสติ้ง, และค่าจ้างคนทำ แต่ในยุค 2025 นี้ เทคโนโลยีได้ทลายกำแพงเหล่านั้นลงแล้ว เพราะคุณสามารถสร้าง Free Landing Page ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องโค้ดแม้แต่บรรทัดเดียว!
บทความนี้จะพาคุณไปเปิดโลกของ “ของฟรีและดี” (ที่มีอยู่จริง) เราจะแนะนำเครื่องมือชั้นนำ วิธีการสร้าง และเคล็ดลับที่จะทำให้หน้าเว็บฟรีของคุณ ดูแพงและปิดการขายได้ไม่แพ้เว็บราคาหลักแสน
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ: “ฟรี” ดีแค่ไหน?
ที่ MSKMedia เรามักจะได้รับคำถามจากลูกค้าเสมอว่า “ใช้ของฟรีได้ไหม?” คำตอบของเราคือ “ได้… ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น” จากประสบการณ์ที่เราดูแลลูกค้ามามากมาย เราเห็นว่าเครื่องมือฟรีเหมาะมากสำหรับการ “ทดสอบไอเดีย” (Proof of Concept) เมื่อคุณต้องการลองตลาดว่าสินค้าตัวนี้จะขายได้ไหมโดยไม่ต้องเจ็บตัว แต่เมื่อธุรกิจเริ่มโต เครื่องมือฟรีอาจกลายเป็น “เพดาน” ที่กั้นไม่ให้คุณไปต่อได้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างถูกต้อง และรู้จังหวะว่าเมื่อไหร่ควรขยับขยาย
Free Landing Page คืออะไร? ทำไมใครๆ ก็แจกให้ใช้ฟรี?
Free Landing Page คือหน้าเว็บไซต์หน้าเดียวที่คุณสามารถสร้างและเผยแพร่ออนไลน์ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้ให้บริการ (Software Providers) มักจะให้ใช้ฟรีภายใต้โมเดล “Freemium” คือให้ใช้ฟีเจอร์พื้นฐานฟรี แต่ถ้าอยากได้ฟีเจอร์เทพๆ (เช่น ต่อโดเมนตัวเอง, ลบลายน้ำ) ต้องจ่ายเงิน
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ:
- SME / พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์: ที่งบจำกัด
- Freelancer: ที่ต้องการทำ Portfolio
- นักการตลาด: ที่ต้องการทดสอบแคมเปญสั้นๆ
- การเก็บ Lead: สำหรับแจก E-book หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์
5 เครื่องมือสร้าง Free Landing Page ที่ดีที่สุดปี 2025
เราได้คัดเลือกเครื่องมือที่ “ใช้งานง่าย” และ “ให้เยอะ” ที่สุดมาให้คุณเลือก:
1. Canva (ใช้ง่ายที่สุดในสามโลก)
ใครว่า Canva ทำได้แค่รูปภาพ? ตอนนี้ Canva สามารถสร้าง One-Page Website ได้สวยงามมาก มี Template ให้เลือกเป็นพันแบบ
- จุดเด่น: ใช้งานง่ายเหมือนทำกราฟิก, ดีไซน์สวยทันสมัย
- ข้อจำกัด: ฟีเจอร์การตลาด (เช่น ฟอร์มเก็บ Lead) ยังไม่เก่งเท่าตัวอื่น
2. Mailchimp (เทพแห่งการเก็บ Lead)
เริ่มต้นจากการเป็นเครื่องมือส่งอีเมล แต่ปัจจุบันมี Landing Page Builder ฟรีที่ทรงพลังมาก
- จุดเด่น: เชื่อมต่อระบบเก็บฐานข้อมูลลูกค้า (CRM) ได้ทันที, เหมาะกับการทำ Email Marketing
- ข้อจำกัด: ปรับแต่งดีไซน์ได้ไม่ยืดหยุ่นเท่า Canva
3. Systeme.io (ครบเครื่องเรื่อง Funnel)
มาแรงมากในกลุ่มนักการตลาด เพราะให้สร้าง Sales Funnel ฟรีได้ถึง 3 ขั้นตอน
- จุดเด่น: มีระบบส่งอีเมล, ระบบขายคอร์ส, และระบบ Affiliate ให้ใช้ฟรีในตัว
- ข้อจำกัด: หน้าตาอาจดูเรียบๆ ไม่หวือหวา
4. ConvertKit (สำหรับ Creator)
เหมาะสำหรับ Blogger, Youtuber, หรือ Podcaster ที่ต้องการขาย Digital Product หรือเก็บ Newsletter
- จุดเด่น: หน้าตาสะอาดตา (Minimalist), โหลดเร็ว, ขายของ Digital ได้เลย
- ข้อจำกัด: ปรับแต่ง Layout ได้น้อยมาก เน้นเนื้อหาเป็นหลัก
5. Google Sites (ของฟรีจาก Google)
ของฟรี 100% ไม่มีกั๊ก จาก Google เชื่อมต่อกับ Google Forms, Maps, YouTube ได้ลื่นไหล
- จุดเด่น: ไม่มีโฆษณาแฝง, ฟรีตลอดชีพ, ใช้งานง่าย
- ข้อจำกัด: ดีไซน์ดูเชยและแข็งทื่อ ปรับแต่งความสวยงามได้ยาก
ตารางเปรียบเทียบ: ของฟรี (Free Plan) vs. ของเสียเงิน (Paid Plan)
ก่อนตัดสินใจใช้ของฟรี คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณกำลัง “แลก” อะไรไปบ้าง
| ฟีเจอร์ (Feature) | Free Landing Page | Paid Landing Page (Pro) |
| ชื่อโดเมน (Domain Name) | Subdomain (เช่น myshop.canva.site) | Custom Domain (เช่น myshop.com) |
| ความน่าเชื่อถือ (Branding) | มีลายน้ำ (เช่น “Made with Mailchimp”) | ไม่มีลายน้ำ (Professional Look) |
| การวัดผล (Analytics) | พื้นฐาน (ยอดวิว) | ขั้นสูง (Heatmap, Conversion Rate, A/B Testing) |
| จำนวนผู้เข้าชม/Leads | จำกัดจำนวน (เช่น 1,000 คน/เดือน) | ไม่จำกัด หรือรองรับได้สูงมาก |
| การเชื่อมต่อ (Integrations) | เชื่อมต่อได้น้อย | เชื่อมต่อกับ Facebook Pixel, Google Ads, CRM ได้ครบ |
| SEO | ทำอันดับยากกว่า | ปรับแต่ง SEO ได้เต็มรูปแบบ |
วิธีสร้าง Free Landing Page ให้ขายได้ (Step-by-Step)
- กำหนดเป้าหมายเดียว: อย่าโลภ! หน้านี้จะขายของ หรือจะเก็บอีเมล เลือกมาอย่างเดียว
- เลือก Template: เลือกเทมเพลตที่โครงสร้างใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณต้องการ (ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์)
- เขียนพาดหัวให้โดน: พาดหัว (Headline) คือสิ่งแรกที่คนเห็น ต้องบอก “ประโยชน์” ที่ลูกค้าจะได้รับทันที
- ใส่รูปภาพ/วิดีโอ: เปลี่ยนรูปใน Template เป็นรูปสินค้าจริงของคุณที่สวยงาม
- สร้างปุ่ม CTA: ปุ่ม “สั่งซื้อ” หรือ “ลงทะเบียน” ต้องเด่น สีตัดกับพื้นหลัง และมีข้อความกระตุ้น
- เผยแพร่ (Publish): กด Publish แล้วนำลิงก์ไปแปะหน้าเพจ หรือเอาไปยิงแอดได้เลย
ข้อควรระวังเมื่อใช้ของฟรี “ยิงแอด”
หากคุณนำ Free Landing Page ไปใช้ยิงแอด Facebook หรือ Google Ads ต้องระวังเรื่องเหล่านี้:
- Domain ไม่สวย: ลิงก์ที่ยาวและดูแปลกๆ (เช่น
site123.com/user/page1) อาจทำให้คนไม่กล้าคลิก ทำให้ค่าคลิกแพง - ติด Pixel ไม่ได้: บางเครื่องมือฟรีไม่อนุญาตให้ฝัง Facebook Pixel หรือ Google Tag ทำให้คุณวัดผล “ยอดขาย” ไม่ได้ (วัดได้แค่คลิก) ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่สำหรับการยิงแอด
- โหลดช้า: เซิร์ฟเวอร์ฟรีอาจจะไม่เสถียรเท่าของเสียเงิน
เมื่อไหร่ที่ควรเลิกใช้ของฟรี แล้วจ้างมืออาชีพ?
คุณควรพิจารณาอัปเกรดหรือจ้างเอเจนซี่อย่าง MSKMedia เมื่อ:
- ยอดขายของคุณเริ่มเติบโตและมีงบประมาณ
- คุณต้องการสร้างแบรนด์ให้ดูน่าเชื่อถือระยะยาว (ต้องมี .com ของตัวเอง)
- คุณต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น ระบบตะกร้าสินค้า, ระบบสมาชิก, หรือการวัดผลละเอียด
- คุณต้องการทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google อย่างจริงจัง
สรุป: เริ่มที่ “ฟรี” ดีกว่า “ไม่เริ่ม”
อย่าให้คำว่า “ไม่มีเงิน” มาหยุดไอเดียธุรกิจของคุณ การใช้เครื่องมือสร้าง Free Landing Page เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเยี่ยมในการก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณต้องการความเป็นมืออาชีพและการเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่าลืมมองหาพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยยกระดับธุรกิจของคุณ
ต้องการ Landing Page มืออาชีพที่วัดผลได้จริง?
หากคุณพร้อมที่จะขยับจากของฟรี มาเป็นระบบที่สร้างยอดขายได้อย่างจริงจังและวัดผลได้ทุกจุด MSKMedia พร้อมให้คำปรึกษา
| ช่องทางการติดต่อ | ข้อมูล |
| ชื่อบริษัท | บริษัท เอ็ม เอส เค มีเดีย จำกัด |
| เว็บไซต์ | https://www.mskads.com/ |
| เบอร์โทรศัพท์ | 090-021-1529 |
| MSK MEDIA | |
| @mskmediaofficial | |
| ที่อยู่ | 159 หมู่ที่ 15 ตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย จ.มหาสารคาม 44150 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ทำได้ครับ แต่มักจะยากกว่าเว็บไซต์จดโดเมนเอง เพราะ Google มักให้เครดิตกับเว็บไซต์ที่มีโดเมนหลัก (.com) มากกว่า Subdomain ของผู้ให้บริการฟรี
Canva ทำได้แค่หน้าเว็บแสดงข้อมูล แต่ “ไม่มีระบบชำระเงินในตัว” คุณต้องใส่ลิงก์ให้ลูกค้ากดไปโอนเงิน หรือทักแชท LINE/Messenger เพื่อปิดการขายเอง
ในเวอร์ชันฟรี ส่วนใหญ่ “ลบไม่ได้” ครับ นี่คือข้อแลกเปลี่ยนที่ผู้ให้บริการขอแลกกับการให้คุณใช้ฟรี หากต้องการลบ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจเสียเงิน
แล้วแต่เจ้าครับ บางเจ้าให้ 1 หน้า บางเจ้าให้ 3 หน้า หากต้องการทำหลายแคมเปญ อาจต้องสมัครหลายบัญชีหรือยอมจ่ายเงิน
ส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้ในระบบหลังบ้านของเครื่องมือที่คุณใช้ (เช่น Dashboard ของ Mailchimp) หรือบางตัวสามารถตั้งค่าให้แจ้งเตือนเข้าอีเมลของคุณได้ทันที
References
เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มสร้างหน้าเว็บฟรีของคุณ นี่คือแหล่งข้อมูลชั้นนำที่คุณสามารถอ่านต่อได้:
- Canva Website Builder: เริ่มต้นสร้างเว็บสวยๆ ด้วย Canva https://www.canva.com/websites/
- Mailchimp Landing Pages: เครื่องมือสร้างหน้าเว็บฟรีพร้อมระบบเก็บ Lead https://mailchimp.com/features/landing-pages/
- Zapier – Best Free Landing Page Builders: บทความรีวิวเปรียบเทียบเครื่องมือฟรีที่ดีที่สุดในปีนี้ (ภาษาอังกฤษ) https://zapier.com/blog/best-free-landing-page-builders/