Google Ads คืออะไร? ทำความเข้าใจระบบโฆษณาของ Google อย่างครบถ้วนในปี 2025

Category :
Tag :
สารบัญ
google ads คือ

Google Ads คืออะไร

Google Ads คือ ระบบโฆษณาออนไลน์ของ Google ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักการตลาดสามารถนำเสนอสินค้าและบริการแก่ผู้ใช้งานที่ค้นหาบน Google และเครือข่ายเว็บไซต์พันธมิตร ไม่ว่าจะเป็น Google Search, YouTube, Gmail, Google Maps หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ

ข้อดีหลักของ Google Ads คือ คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างละเอียด เช่น เพศ อายุ พื้นที่ ความสนใจ และพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งช่วยให้โฆษณาไปปรากฏเฉพาะกับคนที่ “มีแนวโน้มจะซื้อ” สินค้าหรือบริการของคุณ


Google Ads กับ Google AdWords ต่างกันไหม

จริงๆ แล้ว Google AdWords คือชื่อเดิมของแพลตฟอร์มนี้ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Google Ads ในปี 2018 เพื่อให้สอดคล้องกับบริการโฆษณาที่หลากหลายขึ้น ทั้งในรูปแบบข้อความ วิดีโอ แอป และสินค้า

หากคุณเคยได้ยินคำว่า Google AdWords มาก่อน ก็สามารถเข้าใจว่าเป็นบริการเดียวกันกับ Google Ads ในปัจจุบัน


ประเภทของโฆษณาใน Google Ads

การเลือกประเภทของโฆษณาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วขึ้น

ประเภทโฆษณาช่องทางแสดงผลเหมาะสำหรับ
Search Adsหน้า Google Searchคนที่กำลังค้นหาสิ่งที่คุณขาย
Display Adsเว็บไซต์พันธมิตรของ Googleการสร้างการจดจำแบรนด์
Video AdsYouTubeโปรโมตสินค้าหรือบริการผ่านวิดีโอ
Shopping Adsหน้าค้นหา + Shopping Tabร้านค้าออนไลน์ที่มีสินค้าจริง
App AdsGoogle Play / YouTubeโปรโมตแอปพลิเคชันให้ติดตั้ง

ระบบการทำงานของ Google Ads

Google Ads ทำงานผ่านระบบ “การประมูลคำค้นหา” (Keyword Auction) ทุกครั้งที่มีคนพิมพ์คำค้นลงใน Google ระบบจะพิจารณาว่าโฆษณาใดควรแสดง โดยอิงจาก 3 ปัจจัยหลักคือ:

  • ราคาที่ผู้ลงโฆษณายินดีจ่าย (Bid)
  • คะแนนคุณภาพของโฆษณา (Quality Score)
  • ความเกี่ยวข้องระหว่างโฆษณาและสิ่งที่ผู้ใช้ค้นหา

ไม่ใช่ว่าใครจ่ายแพงที่สุดจะได้อันดับหนึ่งเสมอ หากโฆษณาของคุณมีคุณภาพดี ก็สามารถแสดงในตำแหน่งสูงได้ในราคาที่ต่ำกว่า


ประโยชน์ของ Google Ads ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

หนึ่งในจุดเด่นของ Google Ads คือความสามารถในการเจาะกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ต่างจาก SEO ที่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอมากกว่า

คุณสามารถควบคุมงบประมาณได้ 100% จะตั้งค่าเป็นรายวัน รายเดือน หรือจำกัดจำนวนคลิกก็ทำได้ทั้งหมด อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนโฆษณาได้แบบเรียลไทม์ตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น


ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้ Google Ads ได้ผลจริง

ในปี 2025 หลายธุรกิจในไทยเริ่มใช้ Google Ads เป็นเครื่องมือหลักในการเพิ่มยอดขาย ตัวอย่างเช่น:

  • ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ใช้ Shopping Ads เพื่อแสดงสินค้า พร้อมปุ่ม “คลิกซื้อ” บน Google โดยมียอดสั่งซื้อมากขึ้นกว่า 40% ภายในเดือนแรก
  • คลินิกความงามในกรุงเทพใช้ Search Ads แบบระบุตำแหน่ง (Geo-targeting) ยิงเฉพาะคนในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบคลินิก
  • คอร์สเรียนออนไลน์ยิง Video Ads เจาะกลุ่มอายุ 18–35 ปี ที่สนใจพัฒนาตัวเองบน YouTube

วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้แคมเปญคุ้มค่า

คีย์เวิร์ดเป็นสิ่งสำคัญในการลงโฆษณา ถ้าเลือกคำผิด จะทำให้โฆษณาแสดงกับกลุ่มคนที่ไม่ใช่ลูกค้าเป้าหมาย

วิธีเลือกคีย์เวิร์ดให้ได้ผล:

  • ใช้คำที่มีเจตนาทางการค้า เช่น “ซื้อ”, “ราคาพิเศษ”, “รีวิว”
  • หลีกเลี่ยงคำกว้างเกินไป เช่น “รองเท้า”
  • ใช้คีย์เวิร์ดยาว (Long-tail) เช่น “รองเท้าผ้าใบสีขาวผู้หญิง”

หากใช้ Google Keyword Planner คุณจะสามารถดูปริมาณการค้นหาและระดับการแข่งขันได้ทันที


วิธีเขียนโฆษณาให้ดึงดูดคนคลิก

ข้อความโฆษณาควรมีความชัดเจน กระชับ และตรงกับเจตนาของผู้ค้นหา ตัวอย่างเช่น:

  • พาดหัวควรดึงดูด เช่น “ลดสูงสุด 50% วันนี้เท่านั้น”
  • ข้อความควรมี Call to Action เช่น “คลิกดูโปรโมชั่น” หรือ “จองเลย”
  • ใช้คำที่เชื่อมโยงกับความต้องการ เช่น “รองเท้าสไตล์เกาหลี ใส่สบาย ราคาเบาๆ”

หากข้อความและหน้า Landing Page สอดคล้องกัน โอกาสเกิด Conversion ก็จะสูงขึ้น


เทคนิคการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบแม่นยำ

Google Ads ให้คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ลึกกว่าที่หลายคนคิด เช่น:

  • เพศ อายุ รายได้โดยประมาณ
  • พฤติกรรมการค้นหาย้อนหลัง
  • อุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น มือถือ หรือเดสก์ท็อป
  • ผู้ที่เคยเข้าเว็บไซต์คุณแล้ว (Remarketing)

ด้วยการตั้งค่าที่แม่นยำ โฆษณาของคุณจะไม่เสียเปล่า และเข้าถึงเฉพาะผู้ที่ “ใช่” เท่านั้น


ข้อควรระวังในการใช้ Google Ads

แม้ Google Ads จะมีประสิทธิภาพสูง แต่หากใช้งานโดยไม่มีการวางแผน ก็อาจสิ้นเปลืองงบประมาณได้ง่าย เช่น:

  • ไม่ตั้งงบประมาณสูงสุดต่อวัน
  • เลือกคำค้นที่มีการแข่งขันสูงเกินไป
  • หน้า Landing Page ไม่ตรงกับโฆษณา
  • ไม่วัดผลหรือปรับปรุงแคมเปญระหว่างรัน

การทำโฆษณาให้ได้ผล จึงต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์และการทดสอบอย่างต่อเนื่อง


ข้อดีของการใช้ Google Ads

  • แสดงผลทันทีหลังลงโฆษณา
  • เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียด
  • วัดผลได้แบบเรียลไทม์
  • เริ่มต้นงบได้ตามต้องการ
  • เหมาะกับทั้งธุรกิจเล็กและใหญ่

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Ads

Q: Google Ads ใช้ยากไหม?
A: ระบบของ Google ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีโหมดอัตโนมัติสำหรับผู้เริ่มต้น และมีตัวช่วยตลอดขั้นตอน

Q: ต้องใช้งบเท่าไรในการเริ่มต้น?
A: ไม่มีขั้นต่ำจริงๆ เริ่มต้นแค่วันละ 100 บาทก็ได้ หากวางแผนดีสามารถสร้างผลลัพธ์ได้มาก

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าโฆษณาทำงานได้ผล?
A: Google Ads มีระบบวัดผลแบบเรียลไทม์ ทั้งจำนวนคลิก การแปลงยอดขาย และค่าใช้จ่ายต่อ Conversion

Q: Google Ads เหมาะกับธุรกิจประเภทใด?
A: เหมาะกับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะขายของออนไลน์ ให้บริการ หรือโปรโมตแอปก็ใช้ได้หมด

Q: Google Ads ส่งผลต่อ SEO หรือไม่?
A: โดยตรงไม่เกี่ยวกัน แต่การเพิ่ม Traffic จากโฆษณาอาจช่วยส่งเสริม SEO ทางอ้อม


References