Google Ads Transparency คืออะไร
Google Ads Transparency คือความพยายามของ Google ในการทำให้ระบบโฆษณามีความโปร่งใส ชัดเจน และตรวจสอบได้มากยิ่งขึ้น ทั้งในมุมมองของผู้ใช้งานทั่วไป และผู้ลงโฆษณา โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลเท็จ โฆษณาหลอกลวง และการโจมตีทางไซเบอร์แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
ระบบนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ตัวตนผู้ลงโฆษณา, ประเทศต้นทาง, ประเภทของโฆษณา, และ กิจกรรมทางการตลาด ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค
Google เปิดอะไรให้สาธารณชนเห็นบ้าง
เมื่อมีการใช้งานโฆษณาผ่าน Google (ทั้งบน Search, YouTube หรือ Display Network) ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับโฆษณานั้นได้ทันที เช่น:
- ชื่อและข้อมูลของผู้ลงโฆษณา (Advertiser Identity)
- ประเทศที่ลงทะเบียนบัญชี
- หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่โปรโมต
- วันที่เริ่มเผยแพร่โฆษณา
- แพลตฟอร์มที่โฆษณาถูกแสดง (Google, YouTube ฯลฯ)
Google จะเก็บข้อมูลนี้ไว้ในระบบที่เรียกว่า Ads Transparency Center
Ads Transparency Center คืออะไร
Ads Transparency Center คือฐานข้อมูลกลางที่ Google สร้างขึ้น เพื่อให้ใครก็ตามสามารถค้นหาและดูรายละเอียดของโฆษณาที่กำลังเผยแพร่โดยผู้ลงโฆษณารายใดก็ได้
ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปค้นหาโดย:
- พิมพ์ชื่อแบรนด์หรือเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณา
- ดูโฆษณาทั้งหมดที่กำลังเผยแพร่
- กรองตามประเทศ/ภาษา/แพลตฟอร์ม
- ตรวจสอบรูปแบบของโฆษณา เช่น แบบรูปภาพ แบบวิดีโอ หรือข้อความ
ลิงก์เข้า Ads Transparency Center: https://adstransparency.google.com/
ความสำคัญของความโปร่งใสในโฆษณาออนไลน์
ในโลกที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตถูกโฆษณารายล้อมทุกวัน ความโปร่งใสช่วยให้ผู้บริโภคมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากการคลิกไปยังเว็บไซต์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
สำหรับผู้ลงโฆษณาเอง ความโปร่งใสยังช่วย:
- สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์
- ป้องกันการแอบอ้างหรือปลอมแปลงโฆษณา
- ส่งเสริมความปลอดภัยในระบบโฆษณาของ Google
- ช่วยให้แคมเปญไม่ถูกปิดกั้นหรือระงับจากการตรวจสอบ
สิ่งที่ Google Ads Transparency ให้คุณตรวจสอบได้
- ชื่อผู้ลงโฆษณา และองค์กรที่อยู่เบื้องหลัง
- ประเทศที่จดทะเบียนบัญชีโฆษณา
- โฆษณาที่แสดงอยู่ตอนนี้ทั้งหมด
- ประเภทและแพลตฟอร์มที่โฆษณาปรากฏ
- ระยะเวลาที่โฆษณาถูกแสดง
การยืนยันตัวตนผู้ลงโฆษณา
ตั้งแต่ปี 2021 Google เริ่มใช้ระบบ Advertiser Verification Program โดยผู้ที่ต้องการลงโฆษณาต้องส่งเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน หนังสือรับรองบริษัท หรือใบอนุญาตประกอบธุรกิจ
หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว ระบบจะเปิดเผยชื่อของผู้ลงโฆษณาในทุกแคมเปญให้ผู้ใช้งานทั่วไปเห็น เพื่อให้รู้ว่าโฆษณานั้นมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือหรือไม่
ตัวอย่างการใช้งานจริง
ร้านค้าออนไลน์ในไทย ที่ลงโฆษณาโปรโมตสินค้าผ่าน Google Ads หากผ่านการตรวจสอบตัวตนอย่างถูกต้อง โฆษณาจะระบุว่า “ลงโฆษณาโดย: บริษัท ABC จำกัด (ประเทศไทย)” บน Google และ YouTube
บริษัทท่องเที่ยวต่างประเทศ หากโฆษณาโปรโมชั่นปลอม แต่ไม่มีชื่อองค์กรแสดง อาจถูกผู้ใช้รายงานผ่าน Transparency Center และถูกระงับโฆษณาโดยทันที
ข้อดีของระบบ Google Ads Transparency
| ด้านที่ได้ประโยชน์ | รายละเอียด |
|---|---|
| ผู้บริโภค | ตรวจสอบที่มาของโฆษณาได้ ลดความเสี่ยงจากโฆษณาหลอกลวง |
| ผู้ลงโฆษณา | เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ป้องกันการปลอมแปลง |
| ระบบโฆษณาโดยรวม | ป้องกันการละเมิดนโยบาย และรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม |
| หน่วยงานกำกับดูแล | ตรวจสอบข้อมูลได้หากมีโฆษณาเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่เหมาะสม |
การรายงานโฆษณาที่น่าสงสัย
หากคุณพบโฆษณาที่น่าสงสัย เช่น โฆษณาที่ไม่มีข้อมูลผู้ลงโฆษณา หรือเนื้อหาเข้าข่ายผิดกฎหมาย สามารถกดที่ปุ่ม “ทำไมจึงเห็นโฆษณานี้” หรือ “About this ad” บนโฆษณา แล้วเลือก “รายงานโฆษณา” เพื่อให้ Google ตรวจสอบเพิ่มเติม
การรายงานจะช่วยให้แพลตฟอร์มสะอาดขึ้น และลดปัญหาโฆษณาปลอมในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: Google Ads Transparency ใช้ได้กับโฆษณาทุกประเภทไหม?
A: ใช่ครับ ทั้งโฆษณา Search, YouTube, Display, Shopping Ads ฯลฯ ล้วนอยู่ภายใต้ระบบนี้
Q: โฆษณาทุกตัวต้องผ่านการยืนยันตัวตนหรือไม่?
A: ปัจจุบัน Google บังคับใช้การยืนยันตัวตนกับทุกบัญชีใหม่ และขยายไปยังบัญชีเก่าทีละลำดับ
Q: หากไม่ผ่านการยืนยัน จะยังลงโฆษณาได้ไหม?
A: ไม่ได้ครับ ระบบจะระงับการแสดงโฆษณาจนกว่าจะยืนยันตัวตนสำเร็จ
Q: ข้อมูลใน Transparency Center มีอัปเดตตลอดหรือเปล่า?
A: ใช่ครับ ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์เมื่อมีการเผยแพร่หรือหยุดโฆษณา
Q: ระบบนี้มีผลต่อ SEO หรือไม่?
A: โดยตรงไม่มีผลกับ SEO แต่ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือของแบรนด์บน Google
