คุณเคยเข้าไปอ่านข่าวหรือบทความในเว็บไซต์ต่างๆ แล้วเห็นแบนเนอร์โฆษณาสินค้าที่คุณเพิ่งไปดูใน Shopee หรือ Lazada ตามมาหลอกหลอนไหมครับ? หรือเคยเห็นป้ายโฆษณาสวยๆ แทรกอยู่ระหว่างบรรทัดข่าวที่คุณกำลังอ่านอย่างตั้งใจ? นั่นแหละครับคือพลังของ Google Display Ads
ในโลกที่ลูกค้าไม่ได้แค่ “ค้นหา” แต่ยัง “ท่องเว็บ” ไปเรื่อยๆ Google Display Ads คือเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณนำแบรนด์ไปปรากฏตัวในทุกที่ที่ลูกค้าของคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ข่าวดัง, บล็อกให้ความรู้, หรือแม้แต่แอปพลิเคชันบนมือถือ มันคือการทำการตลาดเชิงรุกที่ช่วยสร้างภาพจำ (Brand Awareness) ได้อย่างทรงพลังที่สุด
ประสบการณ์จริง: เราไม่ได้แค่ “โชว์” แต่เรา “ตามติด”
ที่ MSKMedia เราใช้ Google Display Ads เป็นอาวุธลับในการ “ปิดการขายทางอ้อม” ให้กับลูกค้ามานักต่อนัก เราไม่ได้ใช้มันเพื่อหวังยอดคลิกถล่มทลายเหมือน Search Ads แต่เราใช้มันเพื่อ “Remarketing” หรือการตามไปย้ำเตือนลูกค้าที่ยังลังเล ให้กลับมาซื้อสินค้า เราเห็นผลลัพธ์ชัดเจนว่า แคมเปญที่มีการทำ Display Ads ควบคู่ไปกับ Search Ads มักจะมียอดขายรวมสูงกว่าการทำอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่าเครื่องมือนี้ทำงานอย่างไร และจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดได้อย่างไร
Google Display Ads (GDN) คืออะไร?
Google Display Ads หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า GDN (Google Display Network) คือรูปแบบการโฆษณาของ Google ที่เน้นการใช้ “ภาพ” (Visual) เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว (GIF), หรือวิดีโอสั้นๆ
ความพิเศษของมันคือ โฆษณาของคุณจะไม่ไปโผล่หน้าผลการค้นหา (เหมือน Search Ads) แต่จะไปปรากฏอยู่บน “เครือข่ายเว็บไซต์พันธมิตรของ Google” ซึ่งมีมากกว่า 2 ล้านเว็บไซต์ และเข้าถึงผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้กว่า 90% ทั่วโลก! ลองจินตนาการดูสิครับว่าโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าของคุณจะกว้างใหญ่ขนาดไหน
ทำไมต้องใช้ Google Display Ads ในปี 2025?
- สร้าง Brand Awareness ได้ดีเยี่ยม: เหมาะมากสำหรับการเปิดตัวสินค้าใหม่ หรือต้องการให้คนเห็นโลโก้และสินค้าของคุณบ่อยๆ จนจำได้
- เข้าถึงลูกค้าในเวลาผ่อนคลาย: ลูกค้าอาจไม่ได้กำลัง “ค้นหา” สินค้า แต่พวกเขากำลังอ่านข่าวหรือดูคลิป ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีในการแทรกแบรนด์เข้าไปในความสนใจ
- Remarketing ขั้นเทพ: นี่คือฟีเจอร์ที่เด็ดที่สุด! คุณสามารถเลือกแสดงโฆษณาเฉพาะคนที่ “เคยเข้าเว็บไซต์” ของคุณได้ เพื่อตามไปง้อให้เขากลับมาซื้อ
- ค่าโฆษณาถูกกว่า Search: โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าคลิก (CPC) ของ Display Ads มักจะถูกกว่า Search Ads พอสมควร ทำให้เหมาะกับการหว่านเมล็ดพันธุ์แบรนด์ในวงกว้าง
รูปแบบของโฆษณา (Ad Formats) ที่คุณควรรู้จัก
Google Display Ads ไม่ได้มีแค่ป้ายแบนเนอร์สี่เหลี่ยมธรรมดา แต่มีรูปแบบที่ฉลาดกว่านั้น
1. Responsive Display Ads (โฆษณาแบบปรับเปลี่ยนตามพื้นที่)
นี่คือรูปแบบมาตรฐานและ แนะนำที่สุด สำหรับปี 2025 คุณแค่โหลดรูปภาพ (หลายขนาด), โลโก้, และเขียนข้อความ (พาดหัว + คำบรรยาย) เข้าไป ระบบ AI ของ Google จะทำการ “ผสมผสาน” และ “ปรับขนาด” โฆษณาของคุณให้พอดีกับพื้นที่ว่างบนหน้าเว็บต่างๆ โดยอัตโนมัติ ทั้งสวยและประหยัดเวลา
2. Uploaded Image Ads (โฆษณาแบบอัปโหลดเอง)
ถ้าคุณมีทีมกราฟิกที่เก่งกาจ และต้องการควบคุมดีไซน์เป๊ะๆ 100% คุณสามารถทำภาพแบนเนอร์ตามขนาดมาตรฐาน (เช่น 300×250, 728×90) แล้วอัปโหลดเข้าไปตรงๆ ได้เลย ข้อดีคือสวยตามใจ แต่ข้อเสียคืออาจแสดงผลได้ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่เท่าแบบแรก
การกำหนดเป้าหมาย (Targeting): จะให้ใครเห็นโฆษณาเรา?
ความแม่นยำคือหัวใจของความสำเร็จ Google มีตัวเลือกให้คุณเลือกกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดมาก
| วิธีการกำหนดเป้าหมาย (Targeting Method) | อธิบาย (Description) | เหมาะสำหรับ (Best For) |
| Remarketing | แสดงโฆษณาให้คนที่ เคยเข้าเว็บ หรือแอปของคุณ | การปิดการขาย, ตามลูกค้าเก่า |
| In-Market Audiences | แสดงให้คนที่ Google รู้ว่า กำลังค้นหา/ต้องการซื้อ สินค้าแบบคุณ | เพิ่มยอดขาย, หาคนที่พร้อมซื้อ |
| Affinity Audiences | แสดงให้คนที่มี ความสนใจ/ไลฟ์สไตล์ ตรงกับสินค้า (เช่น รักสุขภาพ, ชอบเที่ยว) | สร้างแบรนด์ (Awareness) ในระยะยาว |
| Demographic | เลือกตาม อายุ, เพศ, สถานะพ่อแม่, รายได้ | สินค้าที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจน |
| Contextual (Keywords/Topic) | แสดงบน หน้าเว็บที่มีเนื้อหา เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่เราเลือก | การเข้าถึงคนที่กำลังอ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง |
| Placement | เลือก เจาะจงเว็บไซต์ หรือช่อง YouTube ที่ต้องการลงโฆษณา | การควบคุมแบรนด์, ต้องการลงเว็บดังๆ |
เรื่องเงินๆ ทองๆ: ค่าโฆษณา Google Display Ads แพงไหม?
ข่าวดีคือ ถูกกว่าที่คุณคิด!
โดยเฉลี่ยแล้ว ค่าคลิก (CPC) ของ Google Display Ads ในไทย มักจะอยู่ระหว่าง 2 – 10 บาท เท่านั้น (ถูกกว่า Search Ads ที่อาจพุ่งไปหลักร้อย)
หรือถ้าคุณต้องการเน้นให้คนเห็นเยอะๆ (ไม่เน้นคลิก) คุณสามารถเลือกจ่ายแบบ CPM (Cost Per 1,000 Impressions) ซึ่งอาจตกอยู่ที่หลักสิบถึงหลักร้อยบาทต่อการแสดงผลพันครั้ง
เทคนิคยิง Google Display Ads ให้ปัง (จากประสบการณ์จริง)
- อย่าลืมทำ Remarketing: นี่คือกฎเหล็ก! อย่างน้อยที่สุด คุณควรมีแคมเปญหนึ่งที่ยิงหาคนที่เคยเข้าเว็บแต่ายังไม่ซื้อ เพราะคนกลุ่มนี้มีโอกาสซื้อสูงที่สุด
- ภาพต้องหยุดนิ้ว: รูปภาพต้องสวย คมชัด และสื่อสารรู้เรื่องภายในแวบเดียว (เพราะคนไม่ได้ตั้งใจมาดูโฆษณา)
- ข้อความต้องสั้น กระชับ: พื้นที่มีจำกัด อย่าใส่ตัวหนังสือเยอะเกินไป เน้น “ประโยชน์” หรือ “โปรโมชัน” ตัวใหญ่ๆ
- แยกแคมเปญ Mobile/Desktop: พฤติกรรมคนบนมือถือกับคอมพิวเตอร์ต่างกัน การแยกแคมเปญจะช่วยให้คุณปรับปรุงผลลัพธ์ได้ง่ายขึ้น
- ระวังเว็บไซต์ขยะ: หมั่นเข้าไปดู Placement Report ว่าโฆษณาเราไปโผล่ในเว็บเกมเด็ก หรือเว็บที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าเจอให้กด Exclude (ยกเว้น) ทันที
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Search Ads คือการดักรอคนที่ “กำลังหา” (Pull) ส่วน Display Ads คือการเอาโฆษณาไป “เสนอ” ให้คนเห็น (Push) ในขณะที่เขากำลังทำอย่างอื่น Search Ads มักได้ยอดขายเร็วกว่า แต่ Display Ads สร้างแบรนด์ได้ดีกว่าและราคาถูกกว่า
ไม่จำเป็นต้องจ้างกราฟิกแพงๆ เสมอไปครับ การใช้ภาพถ่ายสินค้าที่ชัดเจน หรือภาพบรรยากาศการใช้งานจริง ผสมกับ Responsive Display Ads ของ Google ก็สามารถสร้างโฆษณาที่ดูดีได้แล้ว
แสดงบนเครือข่ายเว็บไซต์พันธมิตรของ Google (Google AdSense), YouTube, Gmail และแอปพลิเคชันมือถือต่างๆ ทั่วโลก
ดูที่ยอดคลิก (CTR), ยอดการมองเห็น (Impression), และที่สำคัญที่สุดคือ Conversion (ยอดขายหรือการติดต่อ) ที่เกิดจากคนที่คลิกแบนเนอร์เข้ามา หรือคนที่เห็นแบนเนอร์แล้วกลับมาค้นหาชื่อแบรนด์ในภายหลัง (View-through conversion)
อาจเป็นไปได้ว่าโฆษณาไปโผล่ในแอปเกมเด็ก (แล้วเด็กกดผิด) หรือรูปภาพโฆษณาน่าสนใจเกินจริงแต่สินค้าไม่ตอบโจทย์ วิธีแก้คือการคัดกรอง Placement และปรับปรุงหน้า Landing Page ให้ตรงกับโฆษณา
References
เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำโฆษณา Google Display Ads นี่คือแหล่งข้อมูลชั้นนำที่คุณสามารถอ่านต่อได้:
- Google Ads Help – เกี่ยวกับโฆษณา Display: ข้อมูลอย่างเป็นทางการจาก Google อธิบายพื้นฐานทั้งหมด https://support.google.com/google-ads/answer/2404190?hl=en
- WordStream – The Complete Guide to Google Display Ads: คู่มือเชิงลึกที่สอนตั้งแต่วิธีคิดไปจนถึงการตั้งค่า (ภาษาอังกฤษ) https://www.wordstream.com/blog/ws/2023/05/15/google-display-ads-guide
- Search Engine Journal – Google Display Ads Best Practices: รวมเทคนิคและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการทำโฆษณา GDN (ภาษาอังกฤษ) https://www.searchenginejournal.com/google-display-ads-best-practices/369730/