วิธีติดตั้ง Google Ads Conversion Tracking ภายใน 15 นาที

สารบัญ


1 สร้าง Conversion Action ใน บัญชีโฆษณา Google

2 ติด Tracking Code ของ Google Tag Manager ลงบนเว็บไซต์

3 เริ่มทำการ ติด Tracking ผ่าน Google Tag Manager

4 ทดสอบ Event

5 ขั้นตอนที่สำคัญที่สุด Publish





3.1 เลือก Variables>>Configure กดติ๊ก Category Click ทั้งหมดตามรูปด้านล่าง



สำหรับใครที่อยากดูในรูปแบบวีดีโอ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Ads Tag

หากไม่ติด Tag Conversion จะเป็นอย่างไร?

จากประสบการณ์ที่ผมทำงานให้ลูกค้ามาเยอะมากนะครับ สิ่งที่เจอบ่อยเลยคือ ลูกค้าหลายคนยิงแอดไปหลายหมื่น แต่ไม่รู้เลยว่าแคมเปญไหนสร้างยอดขาย หรือส่งฟอร์มได้จริง เพราะไม่ได้ติด Tag Conversion เลย
สุดท้ายแล้วก็วัดผลอะไรไม่ได้ครับ กลายเป็นต้องใช้ “ความรู้สึก” ในการตัดสินใจ ซึ่งเสี่ยงมาก และผิดพลาดง่ายด้วย
ดังนั้นถ้าไม่ติด Tag Conversion เท่ากับเราขับรถตอนกลางคืนโดยไม่เปิดไฟครับ — มองไม่เห็นทาง ว่าอะไร ได้ผลหรือไม่ได้ผล

ติด Tag แล้วจะส่งผลต่อประสิทธิภาพของ Google Ads อย่างไรบ้าง?

การติด Tag ให้ถูกต้อง คือรากฐานสำคัญของการทำ Google Ads ให้ได้ผลครับ เพราะถ้าเราติด Tag แล้ว Google จะรู้ว่า คนที่คลิกโฆษณาเราแล้วเกิด Conversion จริง ๆ คือใคร
จากนั้น AI ของ Google จะเรียนรู้ และเริ่มไปหาคนที่ “มีแนวโน้มจะทำ Conversion” มากขึ้นเรื่อย ๆ
พูดง่าย ๆ คือ การติด Tag ที่ถูกต้อง ทำให้ Google Ads ฉลาดขึ้นทุกวัน ยิงแม่นขึ้น และคุ้มงบมากขึ้นครับ
หลายแคมเปญของลูกค้าเรา พอเราแก้ Tag ให้ถูกต้อง แล้วเปิดโหมด Smart Bidding ปรับเป้าไปที่ Conversion แทน Click — Cost per lead ลดลงทันที 30-50% เลยครับ

ติด Tag แล้ว จะรู้ได้ยังไงว่า Conversion ที่ได้มาจากโฆษณา?

Google Ads จะรายงาน Conversion ที่เกิดจากคนที่คลิกโฆษณาเราภายในช่วงเวลา Attribution Window ที่เราตั้งไว้ เช่น 30 วัน
ผมมักจะแนะนำลูกค้าให้ดูในรายงานแคมเปญว่าแต่ละ Keyword หรือ Ad Group ทำ Conversion ได้กี่ครั้ง พร้อม Cost per Conversion
การติด Tag จึงช่วยให้เรารู้ว่า เงินที่เราจ่ายไป ได้ผลลัพธ์กลับมายังไง และมาจากแหล่งไหนบ้าง
ถ้าติดถูกต้อง เราสามารถวิเคราะห์ลึกได้เลยครับ ว่า Landing Page ไหนสร้าง Conversion ได้ดี หรือแม้แต่ A/B Test Creative ก็ทำได้แม่นขึ้นเยอะ

หากติด Google Ads Tracking ผิดจะเป็นอย่างไร?

พูดแบบไม่อ้อมค้อมเลยครับ — ถ้าติด Tracking ผิด ผลลัพธ์ของโฆษณาทั้งแคมเปญ “เชื่อถือไม่ได้” ทันทีครับ
ผมเคยเจอกับลูกค้าหลายราย ที่ตอนแรกบอกว่าโฆษณาได้ผลดี มี Conversion เข้ามาเรื่อย ๆ
แต่พอเราขอเข้าไปตรวจ Tag จริง ๆ กลับพบว่า Conversion ที่นับ เป็นแค่คนที่ “เปิดหน้า Thank You Page” โดยไม่เกี่ยวว่าเขากรอกฟอร์มหรือไม่!
ซึ่งพอมีคนแค่รีเฟรชหน้านั้น หรือลิงก์จากที่อื่นเข้ามา ก็ถูกนับเป็น Conversion หมดเลย — ข้อมูลที่ได้ผิดเพี้ยนหมดครับ
ผลคือ Google ก็เอาข้อมูลผิด ๆ ไปเรียนรู้ แล้วก็ยิงโฆษณาไปหาคนที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ หรือกรอกฟอร์มจริง ๆ
สุดท้ายแล้วก็เสียเงินโฆษณาแบบไร้ทิศทาง และ Conversion จริงแทบไม่มีเลย
จากประสบการณ์ตรงของผม สิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่ “ติด Tag” แต่คือต้อง “ติดให้แม่นยำและวัดผลได้จริง”
เพราะถ้า Tracking ผิด มันจะทำให้คุณเข้าใจผิดว่าแคมเปญได้ผลดี ทั้งที่ความจริงมันอาจกำลังเผาเงินคุณอยู่แบบเงียบ ๆ ครับ